TikTok เตรียมรุกตลาดอี-คอมเมิร์ซสหรัฐฯ มุ่งทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ผ่านการขายผ่านช่องทาง “ไลฟ์สตรีม”

จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป จากการไปซื้อของตามห้างสรรพสินค้า กลุ่มลูกค้าเริ่มหันมาสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น และจากการออกมาตรการล็อคดาวน์ในปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้คนให้ความสนใจกับคอนเทนท์ทางช่องทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น

แอพพลิเคชั่นแชร์วิดีโอยอดนิยมจากจีนอย่าง TikTok ก็เตรียมรุกเข้าไปในธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในสหรัฐอเมริกา หลังจากในช่วงที่ผ่านมาได้จับมือกับพันธมิตรหลายราย ไม่ว่าจะเป็นเอเจนซี่โฆษณา บริษัทเทคโนโลยีด้านอี-คอมเมิร์ซ รวมถึงบริษัทค้าปลีกในสหรัฐฯ โดยเตรียมเปิดตัวฟังก์ชั่นการช้อปปิ้งแบบ “ไลฟ์สตรีม” เร็ว ๆ นี้

สำนักข่าว Financial Times รายงานข่าวเมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมาว่า TikTok แอพพลิเคชั่นชื่อดังเตรียมรุกธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในสหรัฐฯ โดยคุยกับเอเจนซี่โฆษณาบางรายถึงการให้อินฟลูเอนเซอร์สามารถรับเงินค่าคอมมิชชั่นได้ หากมีการโปรโมทสินค้าในวีดิโอและมีการแชร์ลิงค์ผลิตภัณฑ์หรือสินค้า

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ TikTok ได้ร่วมเซ็นสัญญากับเอเจนซี่โฆษณายักษ์ใหญ่อย่าง WPP โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าของ WPP สามารถเข้าถึงนวัตกรรมของ TikTok การส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ร่วมกัน รวมถึงการผลักดันกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ของ TikTok ให้เข้าถึงผู้ผลิตโฆษณามากขึ้น

ทาง WPP  ได้ออกแถลงการณ์ว่า TikTok จะร่วมมือกับกลุ่มผู้สร้างคอนเทนท์ออนไลน์ที่มีความสามารถ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้สร้างคอนเทนท์ที่หลากหลาย เพื่อเป็นพันธมิตรกับ WPP และอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันกับนักผลิตโฆษณาที่ทางเอเจนซี่เลือก

นอกจากนี้ WPP และ TikTok จะร่วมกันสร้างโครงการฝึกอบรมสำหรับ WPP เพื่อรับประกันสิทธิในการเข้าถึงคอนเทนท์และเพื่อรับรองคุณภาพและความสามารถของ WPP ในการสร้างสรรค์สื่อที่ดีที่สุดสำหรับแพลตฟอร์ม TikTok โดยเฉพาะ

“ลูกค้าของเราต้องการวิธีใหม่ ๆ และสร้างสรรค์ในการเข้าถึงผู้บริโภค ซึ่ง TikTok ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของสื่อรูปแบบวีดิโอสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่และโอกาสในการร่วมงานกับแบรนด์ต่าง ๆ ในการสร้างสรรค์สื่อบนแพลตฟอร์ม TikTok” มาร์ค รีด ซีอีโอของ WWP กล่าวในแถลงการณ์ที่ออกเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา

ทางด้าน TikTok ยังได้กล่าวว่า จะเปิดตัวการช้อปปิ้งแบบ “ไลฟ์สตรีม” ซึ่งเป็นช่องทางการช้อปปิ้งแบบเดียวกับทางโทรทัศน์ในรูปแบบโทรศัพท์มือถือ ซึ่งผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้ด้วยการสัมผัสหน้าจอเพียงไม่กี่ครั้ง หลังจากเห็นโฆษณาที่นำเสนอโดยอินฟลูเอนเซอร์ใน TikTok

เครื่องมือนี้จะทำให้ TikTok ก้าวไปสู่การแข่งขันกับ Facebook โดยในปี 2563 ที่ผ่านมา TikTok ได้จับมือกับทาง Walmart เพื่อทดลองไลฟ์สตรีมมิ่งสำหรับการขายสินค้า รวมถึงจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีอย่าง Shopify เพื่อพัฒนาให้ TikTok มีฟังก์ชั่นซื้อขายสินค้า และยังทำให้ Shopify สามารถที่จะเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้ากลุ่มวัยรุ่นในสหรัฐฯ

“แบรนด์ต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังตระหนักถึงศักยภาพของ TikTok ในการสร้างและหล่อหลอมวัฒนธรรมที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกทั้งยังเป็นปัจจัยขับเคลื่อนมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเอเจนซี่โฆษณาและครีเอทีฟมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนแคมเปญสร้างสรรค์เหล่านี้” เบลค แชนด์ลี รองประธานฝ่ายโซลูชั่นธุรกิจของตลาดโลกจาก TikTok กล่าว

เมื่อปีที่แล้ว Facebook ได้เปิดตัวเครื่องมือในแอพพิลเคชัน Instagram ในบางประเทศเพื่อให้ผู้คนซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นและช่องทางการช้อปปิ้งดิจิทัลบนเว็บไซต์หลักของ Facebook

ทำให้คาดว่า TikTok นั้น อาจเปิดตัวฟังก์ชั่นสำหรับการซื้อสินค้าภายในปีนี้เพื่อแข่งขัน นอกจากนี้ยังคาดว่าจะมีการไลฟ์สตรีมเพื่อขายสินค้าโดยมีอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมาเป็นผู้ขาย เหมือนกับรายการขายสินค้าในโทรทัศน์ โดยปี 2563 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้งานของ TikTok ในสหรัฐฯ ประมาณ 65-80 ล้านราย ทำให้เป็นโอกาสที่จะหารายได้ใหม่ ๆ จากลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมหาศาล

อ้างอิงข้อมูลจาก

302 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top