เคล็ดลับการทำให้บริการห่ออาหารกลับบ้านเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จ

ปัจจุบันบรรจุภัณฑ์อาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพได้กลายมาเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากความต้องการสั่งอาหารเพื่อนำกลับไปรับประทานที่บ้านมีเพิ่มมากขึ้น และนี่จึงกลายมาเป็นโอกาสที่ดีของผู้ประกอบการด้านการให้บริการอาหาร ในการหาแนวทางการส่งเสริมการตลาด เพื่อให้ได้มาซึ่งผลกำไรและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า

ผู้ให้บริการอาหารที่ต้องการประสบความสำเร็จในการให้บริการห่อกลับบ้านต้องแน่ใจว่า อาหารที่จะส่งให้ลูกค้านั้นมีคุณภาพเสมือนการรับประทานที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ รสชาติ และรสสัมผัส นั่นหมายถึงการให้ความสำคัญกับรายการอาหาร การปรุงและจัดแต่งอาหาร การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ การใช้เทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบาย (เช่น การสั่งซื้อและการชำระเงินออนไลน์) ความถูกต้องในการจัดส่งตามคำสั่งซื้อ รวมถึงการควบคุมดูแลการดำเนินงานอื่น ๆ ทั้งนี้ จากการสำรวจพบว่า ความพึงพอใจของลูกค้ามีแนวโน้มที่จะลดลงเล็กน้อย เมื่อสั่งซื้อสำหรับรับประทานนอกสถานที่ ดังนั้นเป้าหมายของผู้ประกอบการคือ การทำให้ปัญหาเหล่านั้นเกิดขึ้นน้อยที่สุด

บรรจุภัณฑ์

เมื่อกล่าวถึงบริการซื้ออาหารกลับบ้าน บรรจุภัณฑ์คือหนึ่งในสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องคำนึงถึงมากที่สุด เพราะอาหารที่สั่งกลับบ้านนั้นจะต้องมีคุณภาพ รสชาติ และความสดใหม่เช่นเดียวกับการนั่งรับประทานที่ร้าน โดยจะต้องทดสอบและคัดเลือกบรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เหมาะกับประเภทอาหารของร้าน

บรรจุภัณฑ์ที่ดีจะต้องมีความทนทานต่อการแตกร้าว การเจาะทะลุ และการย่อยสลายด้วยความร้อน เนื่องจากผู้บริโภคจำนวนมากยังใช้บรรจุภัณฑ์ในการจัดเก็บและอุ่นอาหาร ซึ่งหมายความว่า ควรหลีกเลี่ยงการใช้โฟม แต่ใช้กระดาษหรือพลาสติกที่สามารถเข้าไมโครเวฟได้

นอกจากนี้ผู้ประกอบการอาจเลือกใช้บรรจุภัณฑ์หลากหลายชนิดสำหรับเมนูต่าง ๆ ของร้านได้ เช่น  การใช้บรรจุภัณฑ์ทำจากกระดาษทนทานสำหรับใส่ของทอด หรือบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่มีฝาแบบใสสามารถมองเห็นส่วนประกอบของอาหารด้านในได้ หรือแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์ที่มีช่องแบ่งสำหรับแยกส่วนอาหารและบรรจุภัณฑ์ขนาดเล็กสำหรับใส่ซอสและน้ำสลัด เป็นต้น

การจัดส่ง

แม้ว่าการบริการจัดส่งอาหารจะไม่ใช่สิ่งจำเป็น แต่ก็เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า และเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขัน ในขณะที่อาจทำให้เกิดปัญหาได้เช่นเดียวกัน

การใช้บริการจัดส่งอาหารโดยบริษัทเอกชนกำลังเติบโตขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเลือกที่จะหลีกเลี่ยงค่าประกันที่สูงและความรับผิดชอบอื่น ๆ ที่เกิดจากการส่งอาหารด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญคือเมื่ออาหารออกจากร้านไปแล้ว การควบคุมคุณภาพอาหารได้ตกไปอยู่ในมือของบุคคลที่สาม

เช่นเดียวกับการเลือกบรรจุภัณฑ์ ผู้ประกอบการจะต้องทดสอบและประเมินผู้ให้บริการจัดส่ง โดยต้องเป็นบริษัทที่เชื่อถือได้ในเรื่องความรวดเร็ว คุณภาพของอาหารเมื่อถึงมือผู้รับ และการบริการลูกค้า ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น การนำเสนอทางออนไลน์ และความสะดวกในการสั่งซื้อ ความช่วยเหลือด้านการตลาด และส่วนร่วมในการช่วยให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ

ไอเดียอื่น ๆ เพื่อช่วยให้ธุรกิจร้านอาหารประสบความสำเร็จในบริการซื้อกลับบ้าน

  • นำเสนอรายการอาหารที่มีปริมาณและขนาดเล็กลง เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าครอบครัวที่มีเด็ก ๆ
  • จัดกิจกรรมการกุศลที่เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส เช่น การบริจาคอาหาร 1 มื้อให้โครงการสำหรับเด็กด้อยโอกาส จากการสั่งอาหารซื้อกลับบ้านในแต่ละมื้อ
  • เปิดโอกาสให้ลูกค้าเลือกส่วนประกอบอาหารเองได้ เช่น ผักกาดหอมและมะเขือเทศสำหรับเบอร์เกอร์ รวมทั้งการเลือกน้ำสลัด และซอสต่าง ๆ
  • เพิ่มเมนู add-ons ให้ลูกค้ามีทางเลือกหลากหลายมากขึ้น
  • เตรียมบรรจุภัณฑ์สำหรับห่อกลับบ้านให้มีจำนวนใกล้เคียงกับส่วนประกอบอาหารที่เตรียมไว้ และจัดเก็บในพื้นที่ที่ความสะอาด
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลือกคำสั่งซื้อกลับบ้านบนเว็บไซต์มีสถานะออนไลน์ ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่เมนูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงโปรโมชั่นต่าง ๆ ให้พร้อมใช้งานและมีรูปภาพประกอบ
  • ตรวจสอบผู้ให้บริการจัดส่งอาหาร เพื่อพิจารณาว่าบริษัทพันธมิตรเหล่านี้ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุด
  • ให้พนักงานร้านทดสอบการให้บริการห่อกลับบ้าน เพื่อรายงานและประเมินความพึงพอใจ สำหรับนำไปปรับปรุงใช้จริง
อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.nestleprofessional.us/news/insights/make-takeout-part-your-success

479 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top