10 รัฐที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ ตอนที่ 2/2

U.S. News จัดอันดับรัฐที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ ประจำปี 2564 โดยพิจารณาจากสภาพแวดล้อมด้านต่าง ๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการทำธุรกิจ

โดย 10 รัฐที่ได้รับการจัดอันดับว่าดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจในปีนี้ อันดับที่ 1-5 ได้แก่

 

  1. ไอดาโฮ (Idaho)

อัตราการสร้างธุรกิจ: 4.1%

ภาระภาษี: 8.9%

สัดส่วนการขอจดสิทธิบัตร: 483.8 ต่อล้านคน

ไอดาโฮมีอัตราการสร้างธุรกิจสูงสุดในสหรัฐฯ เศรษฐกิจของรัฐเปลี่ยนจากการทำเหมืองไปสู่เกษตรกรรมหลังจากได้รับการรับรองความเป็นรัฐ (statehood) โดยเหมืองแร่ในอดีตได้กลายมาเป็นที่ตั้งของรีสอร์ต เช่น สกีรีสอร์ต Sun Valley ซึ่งเปิดให้บริการในปี พ. ศ. 2479

ปัจจุบัน อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของรัฐมีบทบาทสำคัญทางเศรษฐกิจมากที่สุด คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมหลักอื่น ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ การผลิตขั้นสูง การบินและอวกาศ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และนวัตกรรม พลังงาน การผลิตอาหาร และเทคโนโลยีนันทนาการ (recreation technology เช่น การแข่งขันเกมออนไลน์ e-sports และ VR เป็นต้น)

  1. โคโลราโด (Colorado)

อัตราการสร้างธุรกิจ: 3.5%

ภาระภาษี: 9.0%

สัดส่วนการขอจดสิทธิบัตร: 605.9 ต่อล้านคน

โคโลราโดมีการลงทุนแบบร่วมทุนสูงสุดเป็นอันดับ 4 และมีอัตราการสร้างธุรกิจสูงสุดเป็นอันดับ 8 ในสหรัฐฯ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของรัฐ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่นิยมเดินทางไปเล่นสกีที่ Aspen  นอกจากนี้ เศรษฐกิจของรัฐยังได้รับแรงหนุนจากภาคธุรกิจเทคโนโลยีที่กำลังพัฒนาและการเป็นแหล่งที่ตั้งหน่วยงานทางทหาร อาทิ U.S. Air Force Academy

โคโลราโดและวอชิงตันยังเป็นสองรัฐแรกที่กำหนดให้กัญชาถูกกฎหมายโดยในปี 2563 อุตสาหกรรมดังกล่าว สามารถสร้างรายได้จากภาษีได้มากกว่า 387 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

  1. วอชิงตัน (Washington)

อัตราการสร้างธุรกิจ: 3.5%

ภาระภาษี: 9.3%

สัดส่วนการขอจดสิทธิบัตร: 1,058.0 ต่อล้านคน

วอชิงตันมีสัดส่วนการขอจดสิทธิบัตรสูงสุดเป็นอันดับ 3 และมีการลงทุนแบบร่วมทุนสูงสุดเป็นอันดับ 5 ในสหรัฐฯ วอชิงตันเป็นที่รู้จักในฐานะแหล่งกำเนิดของกาแฟ Starbucks บริษัท Boeing และ Microsoft และด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่ชายฝั่ง วอชิงตันจึงเป็นผู้ส่งออกรายสำคัญของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอุปกรณ์ด้านการคมนาคมขนส่ง นอกจากนี้ วอชิงตันยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมอาหารและการเกษตรของประเทศ โดยมียอดขายแอปเปิ้ลคิดเป็น 70% ของตลาดในประเทศ และยังเป็นผู้นำในการผลิตนม มันฝรั่ง และผลิตภัณฑ์จากวัว

นอกจากนี้ อุตสาหกรรมอวกาศยังเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐ ตามด้วยภาคการทหาร ซึ่งมีการจ้างงานมากเป็นอันดับสองในวอชิงตัน โดยมีเจ้าหน้าที่ทั้งที่ประจำการปัจจุบัน กองหนุนรักษาการณ์ และพลเรือนมากกว่า 127,000 คน นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ประสบความสำเร็จ อาทิ อุตสาหกรรมการเดินเรือ และเทคโนโลยี และพลังงานสะอาด

  1. แคลิฟอร์เนีย (California)

อัตราการสร้างธุรกิจ: 3.5%

ภาระภาษี: 10.3%

สัดส่วนการขอจดสิทธิบัตร: 1,163.5 ต่อล้านคน

แคลิฟอร์เนียเป็นหนึ่งในรัฐอันดับต้น ๆ สำหรับการทำธุรกิจ โดยมีการลงทุนแบบร่วมทุน และมีสัดส่วนการขอจดสิทธิบัตรสูงสุดเป็นอันดับ 2 ในสหรัฐฯ อุตสาหกรรมหลักในแคลิฟอร์เนีย ได้แก่ อุตสาหกรรมบันเทิง และแฟชั่น นอกจากนี้ แคลิฟอร์เนีย ยังมีอุตสาหกรรมที่โดดเด่นและสามารถสร้างรายได้มหาศาลให้แก่รัฐอีก เช่น อสังหาริมทรัพย์ อุตสาหกรรมการผลิตคอมพิวเตอร์และผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์

  1. แมสซาชูเซตส์ (Massachusetts)

อัตราการสร้างธุรกิจ: 3.0%

ภาระภาษี: 9.7%

สัดส่วนการขอจดสิทธิบัตร: 1,165.9 ต่อล้านคน

แมสซาชูเซตส์ได้รับการจัดอันดับให้เป็นรัฐที่ดีที่สุดสำหรับการทำธุรกิจ โดยมีการลงทุนแบบร่วมทุน และมีสัดส่วนการขอจดสิทธิบัตรสูงที่สุดในสหรัฐฯ ปัจจุบันภาคการศึกษาและบริการด้านสุขภาพมีการจ้างงานมากที่สุดในรัฐ และยังมีอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่สำคัญ ได้แก่ อุตสาหกรรมการผลิต โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์คอมพิวเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ อุตสาหกรรมด้านเทคโนโลยี และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ซึ่งประกอบไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ อาทิ ชายหาด Cape Cod เกาะ Nantucket และ Martha’s Vineyard

อ้างอิงข้อมูลจาก

https://www.usnews.com/news/best-states/slideshows/10-best-us-states-for-business

4,913 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top