เทคโนโลยี Automation ตอบโจทย์ผู้ผลิตและผู้บริโภคในยุค New Normal

การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมายในการใช้ชีวิตประจำวัน รูปแบบการใช้ชีวิตแบบ New Normal ได้เริ่มขึ้น ในส่วนของธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมต่างก็ได้รับผลกระทบและเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เช่นกัน บริษัทหลายแห่งต้องหาหนทางจัดการกับการเปลี่ยนแปลงและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในธุรกิจ

ระบบอัตโนมัติ (Automation) เป็นอีกหนี่งหนทางที่ถูกนำมาพิจารณาและใช้อย่างแพร่หลายมากขึ้นตามลักษณะงานในธุรกิจและอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อช่วยให้ระบบการทำงานและการจัดการคล่องตัวในช่วงที่แรงงานมนุษย์ขาดแคลน หลังเกิดการแพร่ระบาด

เทคโนโลยี Automation ช่วยลดความล่าช้าในการทำงานและความผิดพลาดของมนุษย์ เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงาน การวิเคราะห์และประเมินปัญหา การประมวลผลงานหรือผลการผลิตมีความรวดเร็วและน่าเชื่อถือ และข้อมูลที่ได้ก็แม่นยำและสม่ำเสมอ

ในส่วนของอุตสาหกรรมการผลิต หลายคนเชื่อว่าการใช้เทคโนโลยี Automation จะนำไปสู่การเลิกจ้างงานและในท้ายที่สุดจะเข้ามาแทนที่แรงงานมนุษย์ อย่างไรก็ตาม จากรายงานเกี่ยวกับนโยบายของ The Organization for Economic Co-operation and Development (OECD) ระบุว่า โดยรวมแล้วการจ้างงานยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่าจะมีการใช้เทคโนโลยี Automation มากขึ้นในภาคการผลิตก็ตาม

เทคโนโลยี Automation ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นภัยต่อการจ้างงานและแรงงานมนุษย์ แต่ทว่ากลับเป็นเครื่องมือสำคัญอย่างหนึ่งในธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจการผลิต (manufacturing business) เนื่องจากการใช้ระบบอัตโนมัติแทนที่แรงงานคนเป็นกลยุทธ์ที่ผลักดันให้ลูกจ้างมีโอกาสที่จะพัฒนาความคิดและการเรียนรู้เพิ่มขึ้น เพื่อที่จะขยับขึ้นไปในระดับหรือตำแหน่งที่สูงกว่า หรืออาจจะเปลี่ยนแปลงตนเองไปสู่อาชีพใหม่ที่ดีกว่า

การกำจัดงานที่ทำซ้ำ ๆ ออกไปด้วยการใช้เทคโนโลยี Automation และการจัดสรรงานหรือย้ายลูกจ้างไปทำในส่วนอื่นหรือตำแหน่งอื่นที่ดีกว่าหรือน่าสนใจกว่าในบริษัท อาจทำให้ลูกจ้างเหล่านั้นพอใจกับงานที่ได้รับมอบหมายมากขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วผลลัพธ์ที่ได้จะส่งผลดีกับธุรกิจ

Photo Credit: By Leon Neal/Getty Images

บริษัท e-commerce อย่าง Amazon มีชื่อเสียงในการทดลองเทคโนโลยี Automation ของบริษัทที่มีชื่อว่า “Just Walk Out” มาเป็นเวลากว่า 4 ปี ในร้านสะดวกซื้อ Amazon Go ซึ่งมีอยู่ 24 แห่ง และร้านขายของชำ Amazon Fresh อีกหลายแห่งในสหรัฐฯ

เพื่อใช้บริการ ลูกค้าสามารถสแกน QR code ในแอพพลิเคชั่นของ Amazon หรือสแกนฝ่ามือบนเครื่องสแกน หรือใส่บัตรเครดิตในเครื่องสแกนซึ่งจะเชื่อมต่อข้อมูลจากบัตรเครดิตไปยังบัญชี Amazon ของลูกค้า หลังจากเลือกซื้อสินค้า สามารถเดินออกจากร้านได้โดยไม่ต้องยืนต่อแถวชำระเงิน ซึ่งกล้องที่ติดตั้งและเซ็นเซอร์ติดตามสินค้า จะติดตามกิจกรรมการซื้อสินค้าต่าง ๆ และท้ายที่สุดจะมีการเรียกเก็บเงินผ่านบัญชี Amazon

Whole Foods Market สาขา Glover Park ที่อยู่ทางตอนเหนือของย่าน Georgetown ในกรุงวอชิงตัน เป็นสาขาต้นแบบที่แรกที่มีการใช้เทคโนโลยี Just Walk Out อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งลูกค้าของ Amazon เพียงแค่สแกนฝ่ามือบนเครื่องสแกน เดินเข้าร้านเพื่อซื้อสินค้า และเดินออกหลังจากเลือกซื้อสินค้าเสร็จ ลูกค้าจะได้รับบิลเรียกเก็บเงินผ่านทางบัญชี Amazon

Photo Credit: supermarketnews.com

เทคโนโลยี Just Walk Out ใน Whole Foods Market ประกอบด้วยกล้องจำนวนร้อยกว่าตัวที่สามารถเห็นทุกความเคลื่อนไหวและกิจกรรมของลูกค้า เซ็นเซอร์ถูกติดตั้งไว้ใต้ที่วางสินค้าทุกชิ้น เช่น ชั้นวางของ ตู้แช่แข็ง หรือตู้ของสด โดยจะสามารถตรวจจับสินค้าแต่ละชิ้นและวิเคราะห์การชอปปิ้งของลูกค้าแต่ละคน เช่น การยกสิ้นค้าขึ้นหรือวางกลับไปที่เดิม และคำนวณราคาสินค้าทั้งหมดหลังเดินออกจากร้าน

ความแม่นยำของเทคโนโลยีดังกล่าวถูกทดสอบโดยลูกค้าบางรายที่มีความสงสัยว่าระบบอัตโนมัติจะสามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ เช่น การหยิบกล่อง chicken nuggets ออกจากตู้แช่แข็งมาใส่ถุง แต่ภายหลังได้วางกลับไปในตู้แช่แข็งเช่นเดิม หรือการหยิบอะโวคาโดออร์แกนิคออกจากกอง แต่วางอะโวคาโดออร์แกนิคผลนั้นกลับคืนในกองอะโวคาโดแบบธรรมดา จากนั้นเดินรอบ ๆ แล้วกลับมาหยิบอะโวคาโดออร์แกนิคผลเดิมใส่ถุง เทคโนโลยีซึ่งมีความแม่นยำสูงคำนวณราคาได้อย่างถูกต้อง โดยไม่มีการเก็บเงินค่า chicken nuggets ที่ถูกวางคืน และคิดราคาอะโวคาโดออร์แกนิคซึ่งถูกหยิบใส่ถุงชอปปิ้งไป

แม้ว่า Amazon จะใช้ระบบ Automation อย่างเต็มรูปแบบกับ Whole Foods Market สาขา Glover Park แต่ทางบริษัทก็ยังมีการว่าจ้างแรงงานคนเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เช่น การแนะนำลูกค้าเกี่ยวกับการ check in ด้วยฝ่ามือ หรือการให้คำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ ภายในร้าน นอกจากนี้ หากลูกค้าคนใดไม่สะดวกที่จะซื้อสินค้าในร้านผ่านระบบอัติโนมัติ ลูกค้าก็สามารถเลือกที่จะซื้อสิ้นค้าและต่อแถวชำระเงินได้ตามปกติ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งของการนำเทคโนโลยี Automation มาใช้ในธุรกิจ เพื่อสร้างความสะดวกสบายให้แก่ผู้บริโภค และมีแนวโน้มจะขยายตัวต่อเนื่อง แม้ในช่วงที่ผู้คนกลับมาใช้ชีวิตและทำงานตามปกติหลังสถานการณ์แพร่ระบาดบรรเทาลง ประกอบกับตัวเลขการจ้างงานในสหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมาก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นที่น่าจับตามองถึงกระแสการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเช่นนี้มาพัฒนาวงการและเสริมสร้างการแข่งขันในธุรกิจ ไปพร้อมกับการทำให้มั่นใจว่า เทคโนโลยีจะไม่ได้เข้ามาแทนที่มนุษย์ แต่จะยิ่งช่วยส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพแรงงานและเปิดตลาดแรงงานในส่วนอื่น ๆ ต่อไป

ข้อมูลอ้างอิง

https://www.dailynews.com/2021/11/18/new-at-amazon-fresh-whats-just-walk-out-shopping-like/

https://www.forbes.com/sites/forbestechcouncil/2022/01/25/why-manufacturing-automation-should-dominate-the-2022-business-agenda/?sh=732d3414176e

https://www.nytimes.com/2022/02/28/technology/whole-foods-amazon-automation.html

849 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top