สภาหอการค้าสหรัฐฯ จัดทําบทวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อได้เปรียบทางต้นทุนของสินค้าไทยเปรียบเทียบกับจีน สืบเนื่องจากกําแพงภาษีของสหรัฐฯ

สภาหอการค้าสหรัฐฯ (U.S. Chamber of Commerce – USCC) ได้จัดทําบทวิเคราะห์เกี่ยวกับข้อได้เปรียบทางต้นทุนของสินค้าไทยเมื่อเปรียบเทียบกับสินค้าจีน ซึ่งเกิดจากกําแพงภาษีตามมาตรการตอบโต้ทางการค้าของสหรัฐฯ หรือมาตรการ 301 สรุปสาระสําคัญ ดังนี้

  1. บทวิเคราะห์ได้ศึกษาตัวเลขการค้าระหว่างเดือน ก.ค. 2561 – เดือน ก.ย. 2562 ซึ่งพบว่า จากการที่สินค้าจีนได้รับผลกระทบจากกำแพงภาษีจากสหรัฐฯ ตามมาตรการ 301 ส่งผลให้การส่งออกสินค้าประเภทเดียวกันของไทยไปยังสหรัฐฯ มีความได้เปรียบทางต้นทุนกว่าจีนโดยเฉลี่ยร้อยละ 16.9
  2. ประเทศอื่น ๆ ในอาเซียนต่างได้รับอานิสงส์จากมาตรการดังกล่าว เช่น ฟิลิปปินส์ (ร้อยละ 19.3) มาเลเซีย (ร้อยละ 17.2) อินโดนีเซีย (ร้อยละ 14.1) เวียดนาม (ร้อยละ 12.7) ขณะที่ตัวเลขของทั่วโลกโดยเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 15.2
  3. ข้อได้เปรียบดังกล่าวอาจไม่ได้นําไปสู่การเติบโตของอัตราการนําเข้าสินค้าจากประเทศมายังสหรัฐฯ เสมอไป โดยยกตัวอย่างกรณีของฟิลิปปินส์ ซึ่งน่าจะได้รับประโยชน์สูงสุด แต่อัตราการขยายตัวของการส่งออกของฟิลิปปินส์มายังสหรัฐฯ ยังถือว่า เป็นรองประเทศอื่น ๆ ในอาเซียน ขณะที่เวียดนามซึ่งมีข้อได้เปรียบน้อยกว่ากลับมีการเติบโตของการส่งออกโดยรวมมายังสหรัฐฯ มากที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นเพราะตัวเลขการส่งออกของเวียดนามมายังสหรัฐฯ เติบโตอย่างรวดเร็วอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่มาตรการ 301 เริ่มมีผล และจากการที่มีการลงทุนอย่างมากในเวียดนามก่อนหน้านี้เพื่อเตรียมใช้ประโยชน์จากความตกลง Trans-Pacific Partnership (TPP)

อ่านรายงานได้ที่ The US-China trade war and the effects on Thailand: Assessing the Opportunities

** รายงานดังกล่าวเป็นการวิเคราะห์เบื้องต้นเท่านั้น โดย USCC ยังอยู่ระหว่างการปรับปรุงข้อมูล และจะมีการเผยแพร่รายงานฉบับสมบูรณ์ในโอกาสต่อไป

298 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top