ชาวอเมริกันเริ่มส่งสัญญาณพร้อมที่กลับมาแต่งตัวอีกครั้ง ผ่านสถิติใหม่แสดงยอดขายสินค้าแฟชั่นประเภทชุดทำงานและยีนส์ที่เพิ่มสูงขึ้น

ช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในสหรัฐอเมริกา ทำให้ประชากรส่วนใหญ่เรียนเละทำงานจากที่บ้าน หลายคนไม่จำเป็นต้องแต่งตัวด้วยเครื่องแต่งกายตามสมัยนิยมมากเกินไป หนึ่งในสินค้าประเภทเครื่องแต่งกายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มชาวอเมริกันตลอดช่วงล็อคดาวน์จึงได้แก่ กางเกงวอร์มขายาวที่สามารถสวมใส่สบาย

แต่ในช่วงสิ้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ของ Anthropologie ได้เปิดเผยข้อมูลว่า 7 ใน 10 ของรายการสินค้าที่ขายดีที่สุดผ่านหน้าเว็บไซต์ คือชุดเดรส ซึ่งก่อนหน้านี้ การที่เครื่องแต่งกายประเภทชุดเดรสจะติดอันดับ 1-2 รายการนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องยากแล้ว

Richard Hayne ประธานกรรมการบริหารของ Urban Outfitters มองการเปลี่ยนครั้งนี้ว่าน่าตื่นเต้นและส่งผลกระทบในเชิงบวก

“ตั้งแต่ในช่วงปีที่ผ่านมาจนตอนนี้ นิยามคำว่าแฟชั่นของคนส่วนใหญ่เป็นการแต่งกายเพื่ออยู่บ้านแบบง่าย ๆ สบาย ๆ” Hayne กล่าว “เรากำลังเริ่มเห็นสิ่งที่ผมเรียกว่า แฟชั่นเพื่อการแต่งตัวออกนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น”

ส่วน Scott Baxter ประธานกรรมการบริหารของ Kontour Brand เจ้าของแบรนด์ยีนส์ Wrangler และ Lee ระบุว่า ความต้องการของสินค้าประเภทยีนส์เริ่มกลับมาแล้วเช่นกัน ซึ่งน่าจะเป็นเพราะชาวอเมริกันเริ่มกลับมาแต่งตัวอีกครั้ง โดยยีนส์จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ เนื่องจากสามารถนำมาใส่ทั้งไปเที่ยวและทำงานได้

“ยีนส์เป็นสินค้าที่สวมใส่ได้แบบสบาย ๆ โดยสามารถนำมาแต่งตัวแบบทางการหรือลำลองก็ได้” Baxter กล่าว “ในขณะที่ผู้คนกลับไปทำงานที่ออฟฟิส ผู้คนต่างก็คิดว่า พวกเขาจะแต่งตัวอย่างไร และผ้ายีนส์ก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี”

เมื่อผู้ซื้อเลือกซื้อเสื้อผ้าโดยเน้นไปที่ความสะดวกสบายเป็นหลัก ยอดขายกางเกงวอร์มก็พุ่งขึ้นไปถึง 17% เมื่อเทียบเป็นรายปี และยอดขายชุดนอนเพิ่มขึ้น 6% NPD กล่าว ในส่วนของสินค้าหมวดหมู่รองเท้าแฟชั่นได้ปรับตัวลดลง 27% ในปีที่ผ่านมา แต่ยอดขายรองเท้าแตะเพิ่มขึ้น 21% เนื่องจากผู้บริโภคสับเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการรับประทานอาหารนอกบ้านเป็นการทำอาหารในห้องครัว ไปจนถึงการประชุมทางวิดีโอจากห้องนอนและรับชมภาพยนต์หรือซีรีย์จากโซฟาในห้องนั่งเล่น

ผู้ค้าปลีกสินค้าแฟชั่นรายใหญ่ เช่น Urban, Gap , Abercrombie & Fitch , Macy’s และ Nordstrom ต้องสลับสับเปลี่ยนสินค้าให้ทันการเมื่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคเปลี่ยนไปรวดเร็ว เมื่อฤดูใบไม้ผลิที่แล้ว ห้างร้านต่าง ๆ ได้ถอดเสื้อคลุม กระโปรง และกางเกงทรงเข้ารูปออกจากหุ่นโชว์ และสวมกางเกงวอร์มเนื้อยืดและชุดนอนขนาดใหญ่สวมสบายแทน

ปัจจุบันการแจกจ่ายวัคซีนต้านโควิด-19 เป็นไปอย่างรวดเร็ว เพื่อตอบสนองการลดลงของตัวเลขผู้ติดเชื้อ ภาครัฐเริ่มได้ยกเลิกข้อจำกัดต่าง ๆ เพื่อเปิดโอกาสให้คนได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้าน เพื่อไปรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือไปโรงภาพยนต์เพิ่มมากขึ้น นั่นหมายความว่าชาวอเมริกันจำนวนมากกำลังกลับมาใส่เสื้อผ้าสำหรับออกนอกบ้านเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ดี ธุรกิจต่าง ๆ ยังคงเผชิญปัญหาความท้าทายจากการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งกระทบกับผู้เดินเรือและการนำเข้าส่งออกทั่วโลก รวมถึงในสหรัฐฯ เองเกิดการขาดแคลนพนักงานขับรถบรรทุกสินค้าเช่นเดียวกัน ทำให้ท่าเรือหลายแห่งเนืองแน่นไปด้วยสินค้าที่รอคิวนำเข้า-ส่งออก

สภาพเช่นนี้ทำให้การขนส่งสินค้าต้องใช้เวลานานกว่าปกติ 3-4 สัปดาห์ และค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งสำหรับสินค้าแฟชั่นที่มีฤดูกาลชัดเจนถือเป็นเรื่องใหญ่ โดยหลายรายเผชิญปัญหานี้มาแล้วกับสินค้าฤดูหนาวที่มาช้าไปหลายสัปดาห์ ทำให้เหลือเวลาขายไม่นาน และต้องเร่งเคลียร์สต๊อกให้ทันก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิ ขณะเดียวกันการวางแผนจัดเตรียมสินค้าสำหรับฤดู-เทศกาลต่าง ๆ จึงมีความท้าทายมากขึ้นด้วย

โดยห้างค้าปลีก Nordstrom อธิบายว่า ความล่าช้านี้ทำให้สินค้าปีใหม่ที่บริษัทสั่งซื้อมาถึงช้ากว่ากำหนดไปมาก จนกระทบผลประกอบการไตรมาส 4 และจนถึงตอนนี้ บริษัทยังระบายสต๊อกเหล่านั้นออกไปไม่หมด ส่วน Gap ระบุว่า อุปสรรคในการขนส่งสินค้านี้น่าจะลากยาวไปจนถึงกลางปี ซึ่งตอนนี้มีโอกาสสูงที่สต๊อกสินค้าไตรมาสแรกของบริษัทจะล้นเข้าไปสู่ไตรมาส 2 ด้วยเช่นกัน

อ้างอิงข้อมูลจาก
https://www.cnbc.com/2021/03/05/americans-ready-to-restock-wardrobe-but-shipping-snafus-may-plague-retailers.html

747 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top