ธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มให้ผลกำไรสูงในปี 2567

ปี 2567 เพิ่งจะเริ่มต้น หลายคนอาจกำลังคิดที่จะเริ่มต้นทำอะไรใหม่ ๆ เช่น การเริ่มต้นทำธุรกิจของตนเอง ในวันนี้ศูนย์ BIC จึงจะพาไปรู้จักกับธุรกิจขนาดเล็กในสหรัฐฯ ที่มีศักยภาพในการสร้างผลกำไรสูงในปีนี้ โดยผู้ประกอบการควรพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการดำเนินการในบริบทของตนเอง และปัจจัยทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่อาจช่วยผลักดัน
หรือกลายเป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จได้

1.) ร้านเบเกอรี่ประเภทเค้กหรือคัพเค้ก

ความต้องการในอุตสาหกรรมการทำขนมและเค้ก (cake industry) ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2566 ตลาดเค้ก (cake market) ทั่วโลกมีมูลค่า 65.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 3 ต่อปี ในช่วงปี 2567-2573 (ค.ศ. 2024-2030)

ความนิยมในการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษต่างๆ ด้วยการตัดเค้กยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตของตลาดเค้กในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า ประกอบกับความต้องการเค้กเป็นของหวานหลังมื้ออาหารที่เพิ่มขึ้นในผู้บริโภคกลุ่ม millennials และ Gen Z ก็จะช่วยผลักดันการเติบโตของตลาดเค้กในอนาคต

แนวโน้มการเติบโตของตลาดเค้กในสหรัฐฯ ระหว่างปี 2020-2030

Credit: www.grandviewresearch.com

ข้อดีของการทำธุรกิจนี้คือ สามารถเริ่มต้นทำที่บ้านได้ โดยผู้ประกอบการอาจมีเพียงเตาอบและอุปกรณ์อบขนมขั้นพื้นฐานเท่านั้น และสามารถขยายเป็นรูปแบบที่ใหญ่ขึ้นได้เมื่อมียอดขายเพิ่มขึ้น เช่น การขยับขยายไปขายบน food truck และเมื่อกิจการเป็นไปได้ดีเริ่มมั่นคง จึงอาจเปิดหน้าร้านของตนเองได้ ซึ่งสิ่งสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจนี้คือ การศึกษากฎหมายเกี่ยวกับใบอนุญาตและมาตรฐานที่ต้องปฏิบัติตาม โดยแต่ละรัฐอาจมีกฎข้อบังคับแตกต่างกันไป เช่น ในรัฐเวอร์จิเนีย การเปิดร้านเบเกอรี่ที่บ้านต้องได้รับใบอนุญาต และมีกฎระเบียบเกี่ยวกับการติดฉลาก รวมทั้งแนวทางการผลิตที่ปลอดภัย

2.) ร้านขายของที่ระลึกด้านกีฬา (Sports Memorabilia)

ตลาดของที่ระลึกด้านกีฬาทั่วโลกในปัจจุบันมีมูลค่า 26.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะสูงถึง 227.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2575 ซึ่งแสดงว่า ร้านขายของที่ระลึกด้านกีฬา โดยเฉพาะที่มีหน้าร้านจะยังคงทำกำไรได้อีกมาก เนื่องจากผู้ซื้อสินค้าต้องการเลือกและสัมผัสสินค้าที่เป็นของแท้ ทั้งนี้ การรับรองสินค้าว่าเป็นของแท้เป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะของที่ระลึกที่มีลายเซ็น ซึ่งต้องตรวจสอบกับผู้เชี่ยวชาญให้แน่ใจ และหากผู้ประกอบการเองรู้วิธีหรือได้รับการรับรองสำหรับการตรวจสอบ (authenticate) ของที่ระลึก ก็จะสามารถสร้างรายได้จากของที่ลูกค้านำมาตรวจสอบที่ร้านได้ โดยผู้ประกอบการสามารถสรรหาสินค้าเหล่านี้ทั้งที่เป็นของแท้และแบบจำลอง (replica) ได้จากผู้ค้าส่งงานประมูล การขายของเลหลัง (estate sale) และแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น eBay

3.) ชุดแต่งงานและเครื่องประดับ

อุตสาหกรรมชุดแต่งงาน (bridal industry) เติบโตถึงร้อยละ 4.4 และคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 79.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2570 โดยรายงานของ Business Wire ระบุว่า เกือบร้อยละ 85 ของเจ้าสาวยังคงเลือกซื้อชุดแต่งงานในร้าน แม้ว่าผู้บริโภคจะหันมาซื้อสินค้าขายปลีกทางออนไลน์กันมากขึ้นในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี การเริ่มต้นเปิดร้านขายชุดแต่งงานใช้เงินลงทุนเริ่มแรกที่ค่อนข้างสูงประมาณ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ และต้องมีการบริการลูกค้าที่จะสร้างความประทับใจ เนื่องจากมักเป็นการซื้อสินค้าแบบครั้งเดียวในชีวิต (once-in-a-lifetime purchase)

4.) ร้านฝากขายของมือสอง (Consignment shop)

GlobalData และ thredUP รายงานเกี่ยวกับตลาดของมือสองในสหรัฐฯ ว่าจะมีมูลค่าสูงถึง 82 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2569 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากมูลค่าปัจจุบันกว่าสองเท่า และคาดว่าตลาดเสื้อผ้ามือสองจะเติบโตเร็วกว่าอุตสาหกรรมเสื้อผ้าขายปลีกทั่วไปถึง 16 เท่า

การเปิดร้านฝากขายของมือสองจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ไม่มีเงินลงทุนสำหรับสินค้าคงคลัง โดยการเปิดให้ผู้อื่นนำสินค้ามาฝากขายที่ร้าน และแบ่งผลกำไรบางส่วนจากสินค้าเหล่านั้น ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมทั้งผ่านทางหน้าร้านและบนเว็บไซต์ เช่น Poshmark, Mercari และ eBay โดยค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจประเภทนี้คือ การจัดตั้งบริษัท เช่น การตั้ง LLC การเช่าพื้นที่หน้าร้าน การชำระค่าประกันและใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ การจัดหาสินค้า ระบบการชำระเงิน ณ จุดขาย (Point-of-sale (POS)) และการจ้างพนักงาน

5.) รถ food truck

ปัจจุบันอุตสาหกรรม food truck มีมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการเติบโตประมาณร้อยละ 7.9 ต่อปี จึงถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจด้านอาหาร แต่ไม่มีเงินทุนตั้งต้นมากพอสำหรับการทำร้านอาหาร ซึ่งการทำ food truck ยังเป็นการช่วยทดสอบความนิยมในพื้นที่ต่างๆ และความต้องการของกลุ่มเป้าหมายไปในตัว อย่างไรก็ดี การเริ่มทำ food truck มีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงประมาณ 55,000-125,000 ดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากเป็นอุตสาหกรรมที่มีกฎระเบียบค่อนข้างมาก ต้องมีใบอนุญาต การจัดตั้งระบบต่างๆ เช่น POS และค่าใช้จ่ายสำหรับการตกแต่ง ดังนั้น หากผู้ประกอบการต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย อาจลองพิจารณาเช่า food truck ซึ่งมีอุปกรณ์ที่จำเป็นพร้อมให้บริการด้วยแล้ว

6.) ที่พักแบบ Bed and Breakfast (B&B)

ปัจจุบันอุตสาหกรรม B&B ในสหรัฐฯ มีมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้ว่าจะมีการชะลอตัวในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมนี้ปกติอยู่ที่ร้อยละ 3.8 ต่อปี

อย่างไรก็ดี แม้ผู้ประกอบการอาจประหยัดเงินจากการอาศัยอยู่ในสถานที่พักอยู่แล้ว (ในบางกรณี) แต่การเปิด B&B มีค่าใช้จ่ายที่ต้องเตรียมไว้ เช่น ค่าประกันบ้าน ค่าใบอนุญาตด้านความปลอดภัยทางอาหาร หรือค่าใบอนุญาตขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น และยังต้องหารือกับคณะกรรมการวางแผนในพื้นที่ (local planning commission) หากต้องการจะเปลี่ยนบ้านแบบดั้งเดิม (traditional home) ให้กลายเป็น B&B

7.) ธุรกิจให้เช่าสินค้าสำหรับการจัดเลี้ยง

ในปี 2566 อุตสาหกรรมการให้เช่าเพื่อการจัดงานเลี้ยงมีมูลค่า 5.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.3 ต่อปี ทั้งนี้ แม้ว่าธุรกิจนี้จะมีศักยภาพในการสร้างรายได้ แต่ผู้ประกอบการต้องลงทุนจำนวนมากในอุปกรณ์ต่าง ๆ ก่อนที่จะสามารถทำกำไรหรือชดเชยต้นทุนจากการให้เช่าอุปกรณ์ซ้ำๆ หลายครั้ง ซึ่งในระยะเริ่มต้นอาจประหยัดเงินได้ด้วยการเช่าพื้นที่จัดเก็บ (storage) และเน้นการทำการตลาด แต่ในระยะยาวอาจประหยัดได้มากขึ้นจากการมีหน้าร้าน ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจไปในตัว

8.) ร้านตัดเย็บและปรับแก้เสื้อผ้า

ตลาดการตัดเย็บและปรับแก้เสื้อผ้าในปัจจุบันมีมูลค่า 9.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 4.7 ต่อปี ข้อดีของธุรกิจประเภทนี้คือ ผู้ประกอบการสามารถขยายธุรกิจไปพร้อมกับการพัฒนาทักษะของตนเองได้ ตั้งแต่การเย็บชายเสื้อและเปลี่ยนกระดุม ไปเป็นการตัดเย็บและการออกแบบเสื้อผ้า จนถึงการปรับแก้และออกแบบเสื้อผ้าชั้นสูง (high-end) ซึ่งในที่สุดอาจช่วยให้มีงบประมาณเพียงพอในการตั้งหน้าร้านได้ และการเริ่มต้นทำได้ไม่ยาก โดยอาจเริ่มทำร้านในบ้านของตนเอง และค่อยๆ ลงทุนเพิ่มเติมในจักรเย็บผ้า การคัดเลือกผ้า และระบบต่างๆ รวมทั้ง POS

9.) ร้านเสื้อผ้าสตรีตั้งครรภ์มือสอง

ในปี 2564 อุตสาหกรรมชุดคลุมท้องมีมูลค่า 12.2 พันล้านดอลลาร์ และคาดการณ์ว่าภายในปี 2571 จะเติบโตขึ้นถึง 16.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.4 ต่อปี จากข้อมูลของ the U.S. Bureau of Labor Statistics พบว่า คนทำงานในสหรัฐฯ เป็นสตรีเกือบร้อยละ 57 ทำให้มีความต้องการชุดคลุมท้องสำหรับผู้หญิงทำงานมากขึ้น ซึ่งหลัง การคลอดบุตร ผู้หญิงส่วนมากมักส่งต่อชุดคลุมท้องให้กับว่าที่คุณแม่คนอื่นๆ การเปิดร้านจำหน่ายชุดคลุมท้องและของใช้ในช่วงตั้งครรภ์มือสองจึงเป็นทั้งโอกาสทางธุรกิจและโอกาสในการส่งต่อของให้ผู้ที่ต้องการในเวลาเดียวกัน

10.) บริการทำความสะอาด

Research and Markets คาดว่า ธุรกิจให้บริการทำความสะอาดจะเติบโตขึ้นถึง 14.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2573 ซึ่งการเริ่มต้นธุรกิจประเภทนี้ ผู้ประกอบการสามารถเลือกได้ว่า จะให้บริการสำหรับที่อยู่อาศัย (residential) อาคารพาณิชย์ (commercial) หรือทั้งสองแบบ และจัดตั้งบริษัท LLC ขอรับใบอนุญาตและทำประกันภัยที่เกี่ยวข้อง โดยในระยะแรกอาจเริ่มต้นบริษัทในฐานะผู้ประกอบการคนเดียว (solopreneur) ที่มีอุปกรณ์ทำความสะอาดขั้นพื้นฐาน และเมื่อธุรกิจเติบโตขึ้นจึงปรับขยายขนาดทีมและอุปกรณ์เพิ่มขึ้น

11.) ผู้ช่วยเสมือน/ผู้ช่วยออนไลน์ (Virtual Assistant – VA)

ผู้ช่วยเสมือนเป็นอาชีพที่ค่อนข้างใหม่ แต่สามารถทำงานนี้จากสถานที่ใดก็ได้ ไม่ต้องมีสำนักงานของตนเอง ต้องการ  การลงทุนล่วงหน้าเพียงเล็กน้อย เช่น เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ที่จำเป็นต้องใช้ และมีรายได้ค่อนข้างดี จากรายงานของ ZipRecruiter ในเดือนกันยายน 2566 งานผู้ช่วยเสมือนในสหรัฐฯ มีรายได้เฉลี่ยระหว่าง 33.84 – 82.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง

ผู้ที่สนใจสามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ด้วยการสมัครงานในเว็บไซต์เครือข่ายหางานต่างๆ จากนั้นอาจขยายธุรกิจและสร้างเครือข่ายผ่านการบอกต่อและการสร้างเว็บไซต์ธุรกิจของตนเองได้

12.) การจัดการโซเชียลมีเดีย

ผู้คนทั่วโลกประมาณ 4.9 พันล้านคนใช้โซเชียลมีเดียโดยเฉลี่ย 145 นาทีต่อวัน จึงไม่น่าแปลกใจที่ร้อยละ 77 ของธุรกิจใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อเป็นเครื่องมือทางการตลาด และบริษัทขนาดเล็กจำนวนมากที่ไม่มีบุคลากรเพียงพอนิยมใช้บริการจากบุคคลหรือบริษัทภายนอกเพื่อบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย ซึ่งโซเชียลมีเดียที่มีปริมาณการเข้าชมมากจะช่วยเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์สินค้า สร้างโอกาสในการขาย หรือแม้แต่การขายผลิตภัณฑ์โดยตรง ผู้ที่มีทักษะและประสบการณ์เกี่ยวกับ digital writing/editing และการตลาด สามารถเริ่มต้นธุรกิจนี้ และทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียของตนได้โดยแทบไม่มีค่าใช้จ่ายตั้งต้น

13.) ธุรกิจการทำบัญชี (Accounting and Bookkeeping)

ธุรกิจการทำบัญชีเติบโตร้อยละ 4 ต่อปี นักบัญชีและผู้ตรวจสอบบัญชีโดยเฉลี่ยมีรายได้ 78,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยสามารถเรียกเก็บค่าบริการจากลูกค้าได้ตั้งแต่ 35 – 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และระดับความซับซ้อนของงาน ผู้ที่สนใจธุรกิจนี้ต้องมีวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการบัญชีเป็นอย่างน้อย เพื่อสามารถจัดการงาน เช่น การเตรียมคืนภาษี การจัดทำงบการเงิน และให้คำแนะนำและการวิเคราะห์ทางการเงินกับลูกค้าได้

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ไม่มีวุฒิการศึกษาด้านการบัญชี สามารถเลือกทำธุรกิจแบบ bookkeeping ได้ ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีเอกสารรับรองมากเท่าการบัญชีแบบ accounting มีบริการการทำบัญชีออนไลน์ต่าง ๆ (online bookkeeping services) เป็นตัวช่วย โดยมุ่งเน้นไปที่การติดตามธุรกรรมทางการเงินที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น ใบแจ้งหนี้ การชำระเงิน และบัญชีเงินเดือน

14.) ธุรกิจที่ปรึกษา (Consulting)

ธุรกิจที่ปรึกษาเป็นอีกช่องทางที่ดีในการใช้ประโยชน์จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในสาขาความรู้ที่แต่ละบุคคลมี โดยสามารถทำได้ทั้งแบบเสมือนจริง หรือลงทุนในพื้นที่สำนักงานและอุปกรณ์ ซึ่งสามารถสร้างรายได้สูงถึง 300 ดอลลาร์สหรัฐต่อชั่วโมง สาขาของธุรกิจที่ปรึกษาที่พบได้บ่อย ได้แก่ การประชาสัมพันธ์ การเติบโตทางอาชีพ (career growth) การบัญชี และการให้คำปรึกษาด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์

ทั้ง 14 ประเภทธุรกิจที่กล่าวถึงข้างต้นเป็นธุรกิจในอุตสาหกรรมที่ทำกำไรและกำลังเติบโตในปัจจุบัน อย่างไรก็ดี ไม่มีสิ่งใดที่จะรับประกันความสำเร็จในการทำธุรกิจ ดังนั้น ในการวางแผนเริ่มต้นธุรกิจใหม่ ผู้ประกอบการควรพิจารณาแนวโน้มของอุตสาหกรรม ความต้องการของตลาดเป้าหมาย ต้นทุนการดำเนินงาน และอัตรากำไรที่อาจได้รับจากธุรกิจนั้นเป็นสำคัญ รวมทั้งมีกลยุทธ์ที่เหมาะสม และคำนึงถึงปัจจัยที่อาจนำไปสู่ความล้มเหลวได้ เช่น การบริหารจัดการที่ไม่ดี การขาดการสื่อสารระหว่างสมาชิกในทีม และปัจจัยทางเศรษฐกิจภายนอกที่อาจเป็นปัจจัยทำกำไรได้ในที่หนึ่ง แต่ทำให้ขาดทุนในอีกที่หนึ่ง ซึ่งในท้ายที่สุด ลูกค้าคือผู้ตัดสินใจว่าจะจ่ายเงินไปที่ใด

อ้างอิง

https://www.forbes.com/advisor/business/most-profitable-businesses/

https://www.grandviewresearch.com/industry-analysis/cakes-market

450 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top