บันทึกความสำเร็จของคนรุ่นใหม่ เจ้าของร้านอาหารในนิวยอร์กกับการรักษามาตรฐานรสชาติแบบไทยแท้

เรื่องราวของเจ้าของร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกา กับความสำเร็จที่ต้องแลกมาด้วยความพยายามและการทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ผ่านกาลเวลามากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งในแต่ละครั้งที่ศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสหรัฐฯ ได้มีโอกาสพูดคุยกับคนไทยที่ประสบความสำเร็จและยินดีถ่ายทอดเรื่องราวและเคล็ดลับดี ๆ ก็จะรู้สึกถึงพลังที่ถูกส่งออกมาจากตัวบุคคล สู่การเรียงร้อยเป็นตัวหนังสือผ่าน “บันทึกความสำเร็จ” เผยให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตอันน่าสนใจ และอุปสรรคปัญหาต่าง ๆ ที่เข้ามาเป็นบททดสอบ ทั้งสุขและทุกข์คละเคล้ากันไป

สำหรับบันทึกความสำเร็จของคนไทยในสหรัฐอเมริกาหน้านี้ คือ คุณดลพร ทองเนียม หรือคุณมิ้นต์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้านอาหาร 3 แห่งในนครนิวยอร์ก มาดูกันว่าจุดเริ่มต้นบนเส้นทางธุรกิจของสาวน้อยอายุเพียงไม่ถึง 20 ที่พยายามทำตามความฝัน และสิ่งที่ตนเองรัก ด้วยการฝึกฝนตนเองและพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ จะนำพาเธอเดินไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไร

คุณมิ้นต์เดินทางมาที่ประเทศสหรัฐอเมริกาครั้งแรกเมื่อเธออายุ 19 ปี เพื่อเข้าไปฝึกงานร้านอาหารไทยในนิวยอร์ก ซึ่งนั่นก็ทำให้เธอเกิดความสนใจและชื่นชอบการใช้ชีวิตในสหรัฐฯ เมื่อการฝึกงานเสร็จสิ้น เธอเดินทางกลับไปเรียนต่อที่ประเทศไทย จนจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ด้านบริหารการจัดการโรงแรม เอกอาหารและเครื่องดื่ม ก่อนที่เธอจะตัดสินใจเดินทางกลับมาเรียนต่อที่สหรัฐฯ ในปี 2550

“มาที่นี่ครั้งแรกตั้งแต่อายุ 19 ปี มาฝึกงานในร้านอาหารของผู้ใหญ่ที่ครอบครัวรู้จักในนิวยอร์ก ตอนนั้นกำลังเรียนหลักสูตรอินเตอร์ที่เมืองไทย ตอนมาแลกเปลี่ยน เราก็รู้สึกชอบ รู้เลยว่าใจเราหันเห ไม่อยากอยู่เมืองไทยแล้ว เพราะมาที่นี่มันคือการเปิดโลกของเรา”

โอกาสที่มาพร้อมกับการตัดสินใจ

ร้าน ก.ท.ม. (Kor Tor Mor Restaurant)

จุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจร้านอาหารในสหรัฐอเมริกาของคุณมิ้นต์ คือ หลังเรียนจบที่ยังไม่มั่นใจว่า ถ้าหากเธอเดินทางกลับบ้านที่ประเทศไทยแล้วเธอจะดำเนินชีวิตไปในทิศทางใด เพื่อนของเธอก็ได้เข้ามาพูดคุยและชักชวนเปิดร้านอาหารร่วมกันที่ Brooklyn ซึ่งตอนนั้นคุณมิ้นต์ที่มีประสบการณ์หลายปีจากการทำงาน part-time สมัยเรียน ในตำแหน่งพนักงานเสิร์ฟและบาร์เทนเดอร์ ก็ทำให้เธอตัดสินใจเริ่มต้นทำธุรกิจร้านอาหารเต็มตัวตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา

ร้านอาหารไทยร้านแรกที่เธอได้ร่วมหุ้นเปิดกับเพื่อนคือร้าน “กอ ทอ มอ” (Kor Tor Mor) ตั้งอยู่ภายในย่านCobble Hill กับบรรยากาศสบาย ๆ ในเขต Brooklyn คุณมิ้นต์ให้คำจำกัดความของร้านนี้ว่า เป็นร้านอาหารรสชาติไทยแท้ ๆ ที่อาหารทุกจานจะถูกปรุงโดยเชฟที่มีความรักในศิลปะของอาหาร ผ่านประสบการณ์และสูตรอาหารไทยดั้งเดิมที่ชื่นชอบมาตั้งแต่ครั้งวัยเด็ก

ธุรกิจร้านอาหารไทยร้านแรกที่ได้ร่วมกับหุ้นส่วนเดินไปได้อย่างดี ด้วยการทำข้อตกลงและแบ่งหน้าที่กันอย่างชัดเจน ตามความถนัดและประสบการณ์ของแต่ละคน จากนั้นเธอได้ร่วมกับหุ้นส่วนอีกทีมหนึ่งเปิดร้านอาหารแห่งที่ 2 ในนิวยอร์กกับร้านอาหารที่มีชื่อว่า “เมสง แบงคอค” (Maison Bangkok) ในปี 2561 และร้าน “อีท ไทย” (Eat Thai) ปี 2562 ที่ไทม์สแควร์

ร้านเมสง แบงคอค (Maison Bangkok Restaurant)

“เมสงแปลว่าบ้านในภาษาฝรั่งเศส ซึ่งรูปแบบของร้านนี้ก็คือ การให้อารมณ์เหมือนเดินเข้าบ้านคนไทยที่เมืองไทย ซึ่งแทบทุกหลังเราจะเจอพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9”

ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ไทยหรือในต่างประเทศ การฝึกฝนตนเองคือสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ

สำหรับประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศ คุณมิ้นต์ให้ความสำคัญกับการเรียนรู้และฝึกฝนตนเองให้เกิดความชำนาญในอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในตำแหน่งอะไรหรือที่ใดก็ตาม

“อย่างแรกเลยคือความชำนาญในอาชีพ ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบลอง ในร้านอาหารจะฝึกตัวเองทำหมดทุก ๆ หน้าที่ ใครไม่ทำอะไรตรงไหน เราจะเสนอตัวเข้าไปทำ เป็นคนชอบเรียนรู้ในสิ่งใหม่ ๆ” สิ่งสำคัญลำดับต่อมาคือการฝึกให้ตัวเองรู้จักการทำงานร่วมกับผู้อื่น เพราะคนเราไม่สามารถทำงานสำเร็จได้ด้วยเราเพียงคนเดียวได้

“สามคือฝึกด้านอารมณ์และวุฒิภาวะ เราต้องควบคุมอารมณ์ความรู้สึก ทั้งกับเพื่อนร่วมงานและลูกค้า เพื่อให้งานดำเนินไปด้วยความราบรื่น การเรียนรู้นิสัยใจคอเพื่อนร่วมงานก็เป็นส่วนหนึ่ง ที่จะทำให้เราหลีกเลี่ยงความขัดแย้งที่จะเกิดได้ พูดง่าย ๆ ก็คือเอาใจเขามาใส่ใจเรา”

“สี่คือการแก้ปัญหาทั้งเฉพาะหน้าและปัญหาที่เกิดเป็นประจำ ต้องหาวิธีที่ประนีประนอมที่สุด ให้เกิดประโยชน์แก่ทุกฝ่ายสูงสุด ยิ่งกับลูกค้า มิ้นต์เคยถูกสอนว่า ไม่ต้องไปทะเลาะกับลูกค้า เพราะถ้าเราทำให้เขากลับมาใช้บริการเราได้ เราก็คือผู้ชนะในเกมธุรกิจ”

และลำดับสุดท้ายคือ “ความซื่อสัตย์” ที่ต้องมีต่อความซื่อสัตย์ต่อตนเอง นายจ้าง และลูกจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า

“เชื่อว่าทุกคนสัมผัสได้ถ้าเราจริงใจ และมีความสมเหตุสมผล อย่างเช่นการแนะนำเพื่อขายสินค้าหรือบริการที่มีราคาสูงกว่าให้แก่ลูกค้า บางทีถ้ามันมากเกิน ทำให้ลูกค้ารู้สึกอึดอัด และลูกค้าจะไม่อยากกลับมาใช้บริการ เพราะไม่มีใครอยากตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ”

“อุปสรรคในการทำงานเชื่อว่ามีทุกที่และทุกสายงาน ในส่วนของร้านอาหารหลัก ๆ ที่พบเจอจะเป็นเรื่องพนักงาน เพราะแต่ละคนเติบโตมาต่างพ่อต่างแม่ต่างความคิด ซึ่งเราก็ต้องมีกฎเกณฑ์และมาตรฐานการทำงาน และยังมีปัญหาเกี่ยวกับพนักงานลาออก ทำงานไปสักพักเขาก็จะอยากไปลองทำที่อื่น แต่เราก็เข้าใจว่าทุกคนต้องการงานสบายมีรายได้เยอะ”

ทั้งนี้ สิ่งที่ต้องเตรียมตั้งรับและต้องคำนึงถึงในธุรกิจร้านอาหารก็คือ “ปริมาณ รสชาติอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่คงที่

“เพราะต่อให้เรามีสูตรซอสและวิธีใช้ให้ทั้งหมดแล้ว น้ำหนักมือของแต่ละคน และความใส่ใจก็เป็นเรื่องสำคัญมากต่อมาตรฐานรสชาติอาหาร เพราะนี่จะเป็นปัญหาแรกที่ทำให้ลูกค้าไม่กลับมาใช้บริการเราอีก”

“การรับมือกับปัญหาที่อาจจะอยู่เหนือการควบคุมของเราแบบนี้ก็คือ เราจะต้องรู้ว่าวัตถุดิบของเราชนิดใดส่วนใดที่ขาดไปบ้าง ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าเรารู้ก่อนล่วงหน้า เราจะสามารถแจ้งให้ลูกค้าหรือพ่อครัวทราบได้ ซึ่งในกรณีที่เราพยายามหาวัตถุดิบแล้วยังไม่สามารถหาได้ เราก็จะต้องงดขายอาหารเมนูนั้น ๆ ไปก่อน จนกว่าจะหาวัตถุดิบที่ทางร้านใช้ได้”

“ลูกค้ามาใช้บริการของเรา เขาเสียเงินให้เราเขาก็คาดหวังในสิ่งที่ดีที่สุด ทั้งปริมาณอาหาร รสชาติและบริการ เมื่อลูกค้าไม่ถูกใจเรายอมได้ก็ต้องยอม เราต้องทำความเข้าใจกับปัญหาและจริงใจกับลูกค้า หากเราผิดตรงจุดใดเราก็นำไปปรับปรุง หรือเพิ่มความรอบคอบ”

แต่ในขณะเดียวกันคุณมิ้นต์ก็ได้บอกเล่าประสบการณ์ของทางร้าน เมื่อต้องเจอกับลูกค้าที่ไม่ซื่อสัตย์ เช่น มีการแอบเอาเส้นผมใส่ในอาหาร เพราะไม่ต้องการจ่ายเงิน ซึ่งทางร้านก็ต้องมีการหาสืบคำตอบ และแจ้งกับพนักงานในร้านให้ดูแลลูกค้าอย่างทั่วถึง และต้องมีความช่างสังเกตในกรณีเช่นนี้ด้วย

“เคยเจอลูกค้าในร้านเดินหนีเวลาในร้านยุ่ง ๆ แกล้งทำเหมือนลุกไปเข้าห้องน้ำทีละคนแล้วหายไปหมด”

เป้าหมายและความสำเร็จ

“ที่ผ่านมาถือว่าพอใจ เราไม่ได้ขายดีที่สุด หรืออร่อยที่สุด แต่เราทำด้วยใจ เราใส่ใจในรสชาติ ซอสทุกตัวเราคิดเองทำเองใหม่หมด ชิมทีละคำ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ เติม จากคนที่ทำอาหารไม่เก่ง กินเก่งอย่างเดียว มาถึงวันนี้เรามีความสุขที่ได้ทำอาหารอร่อย ๆ ให้ลูกค้าและดีใจเวลาที่ลูกค้าชม”

“เราใส่ใจกับอาหารมาก เพราะเราจะชิมอาหารตลอด ให้มั่นใจว่าลูกค้าจะได้ทานรสชาติที่เราอยากนำเสนอจริง ๆ เราไม่อยากเป็นร้านไทยที่คนไทยบอกว่า นี่อาหารไทยแบบอเมริกัน เราอยากเป็นร้านไทยที่ทำให้คนที่เคยไปเมืองไทยหายคิดถึงเมืองไทย”

มองธุรกิจในอนาคต

ภายหลังจากการผ่านวิกฤติครั้งสำคัญจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ทางร้านต้องนำเงินสำรองออกมาใช้เพื่อให้ธุรกิจเดินต่อไปได้ เนื่องจากร้านยังไม่เข้าเงื่อนไขที่จะสามารถรับเงินช่วยเหลือที่เพียงพอจากภาครัฐ รวมถึงใช้เงินสะสมเพื่อช่วยเหลือพนักงานที่ติดโควิด-19 และขาดรายได้

“ช่วงนั้นร้านเราหนักมาก ๆ ต้องปิดร้านไปช่วงหนึ่ง เพราะพนักงานไม่กล้ามาทำงานที่ร้าน และวัตถุดิบก็ไม่สามารถส่งมาที่ร้านได้ แต่เราก็รีบเปิดทันทีที่ทำได้ และใช้วิธีเข้าไปทำเองบ้างเพื่อลดค่าใช้จ่ายภายในร้าน ในขณะเดียวกัน ก็ต้องปรับให้ชินกับ new normal ตอนนี้รายได้หลักยังเป็นการนั่งรับประทานทานในร้าน แต่ก็พยายามเพิ่มช่องทางส่งอาหารให้ลูกค้าเข้าถึงได้ง่ายขึ้นด้วย นอกจากนี้ ทางร้านยังมีการเพิ่มประเภทของอาหาร ที่กำลังนิยมในหมู่ชาวคนอเมริกัน อย่างเช่น อาหารที่ทำมาจากพืชผักผลไม้หรืออาหารวีแกนให้หลากหลายยิ่งขึ้นด้วย”

ร้านอีทไทย (Eat Thai Restaurant)

อนาคตบนเส้นทางธุรกิจในสหรัฐฯ คุณมิ้นต์ยังไม่หยุดอยู่เพียงร้านอาหารไทยเท่านั้น เพราะ ณ วันนี้ที่เธอได้เดินมาถึงจุดที่เรียกได้ว่า “ความสำเร็จ” ตามที่หวังแล้ว เธอเองได้ตั้งเป้าหมายใหม่ที่ฉีกแนวจากธุรกิจร้านอาหารที่เธอคุ้นเคย  “เรามองว่าร้านอาหารเราต้องดูแลและทุ่มเทตลอด แม้จะเป็นร้านอาหารขนาดกลางที่ไม่ได้มีโต๊ะหรือมีพนักงานจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้ร้านใน Brooklyn ก็สามารถเดินเองได้โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปดูแลมากเหมือนก่อน เพราะทุกร้านของเรามีทีมผู้ดูแลรับผิดชอบอยู่แล้ว ซึ่งเราเองก็จะดูในส่วนของบัญชีและกฎหมายต่าง ๆ”

“ตอนนี้กำลังเตรียมตัวในการขยับขยายไปทำธุรกิจอื่น ๆ อย่างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หรือธุรกิจเกี่ยวกับการระบบการจัดส่งสินค้า”

สิ่งที่อยากฝากถึงคนไทยที่อยากเป็นเจ้าของร้านอาหารในสหรัฐฯ

“มีเพื่อน ๆ ถามมาเยอะมาก ๆ สิ่งที่ตอบตลอดเลยคือ อย่ากลัว เพราะความกลัวทำให้เราไม่กล้าที่จะเริ่ม หรือไม่กล้าที่จะทำอะไรเพื่อพัฒนาตัวเอง และเราต้องออกจากความเคยชินเดิม ๆ ของเราให้ได้ เราจะต้องคิดวางแผนให้รอบคอบ และสิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องลงมือทำให้เต็มที่ เราต้องเรียนรู้อยู่เสมอ อย่าทำตัวเองให้เหมือนเป็นน้ำเต็มแก้ว เพราะความรู้ความสามารถเป็นสิ่งที่เราต้องเติมตลอดชีวิต”

เว็บไซต์ร้าน

www.facebook.com/mint.dolporn

  1. Kor Tor Mor: www. kortormorthai.com
  2. Maison Bangkok: www. maisonbangkokny.com or www.facebook.com/maisonbangkok/
  3. Eat Thai: www.eatthainewyork.com

584 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top