เชฟไทยในต่างแดน เจ้าของร้านอาหารไทยในดาวน์ทาวน์ซานฟรานซิสโก 5 สาขา ประสบการณ์ยาวนานกว่า 25 ปี

ด้วยความรักในศิลปะการปรุงอาหาร ที่ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของรสชาติ แต่ยังรวมถึงการนำเสนอและวัตถุดิบที่ใช้ต้องเป็นของที่เรียกได้ว่า “ดีที่สุด” เชฟลลิตา สุขสำราญ หรือคุณนิว อายุ 51 ปี เจ้าของร้านอาหาร “โอชาไทย” ในดาวน์ทาวน์ซานฟรานซิสโกกว่า 5 สาขา ศึกษาเล่าเรียนเกี่ยวกับการทำอาหารมาโดยตรง ก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางมายังประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2537 และใช้เวลาสองปีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ จนก้าวสู่การเป็นเจ้าของร้านโอชาไทย ณ ใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

เชฟลลิตาและน้องสาวเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองลอสแอนเจลิส พร้อมกับความฝันในการต่อยอดความสามารถทางด้านอาหารที่มี แต่ในช่วงระยะเวลา 2 ปีแรก ทั้งคู่ยังไปไม่ถึงฝัน แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่สองพี่น้องได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในต่างแดนได้อย่างมากมาย กระทั่งได้มีโอกาสเดินทางท่องเที่ยวขึ้นไปทางเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และพบกับทำเลทองต้องตาต้องใจ จนทั้งคู่ตัดสินใจเปิดร้าน “โอชาไทย” สาขาแรกขึ้นมา

“จุดเริ่มต้นเลยคือพี่เป็นคนเรียนทำอาหารมาอยู่แล้ว ก็เลยเดินทางมาสหรัฐฯ และตั้งใจว่าจะมาเป็นเชฟที่นี่ อยู่มาได้สองปีก็มาเที่ยวซานฟานซิสโกกับน้องสาว และบังเอิญได้ไปเจอร้าน เราก็เลยเปิดร้านแรกเป็นร้านเล็ก ๆ”

โอชาไทยสาขาแรกเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ ใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก กับการเริ่มต้นที่เรียกได้ว่า ต้องทำทุกอย่างกันเองทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อประสานงาน หรือการขอใบอนุญาตต่าง ๆ และการรับมือกับปัญหาที่มีเข้ามาให้ได้แก้ไขไม่เว้นแต่ละวัน

“เปิดร้านแรกที่ซานฟานซิสโกเป็นการเริ่มต้นที่ดี เปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ พอเริ่มทำก็เจอปัญหาเลย ซึ่งมันก็เป็นเรื่องธรรมดาของร้านอาหาร ปัญหามีมาทุกวัน อุปสรรคเยอะแยะมากมาย แต่เราเตรียมใจเอาไว้แล้ว เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเจอกับปัญหาหนักหนาสาหัสเพียงใด เราก็เอาชนะมันมาได้ทุกครั้ง”

“โอชาไทยได้รับการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ร้านเราขายดีขึ้นเรื่อย ๆ ลูกค้าเราเริ่มเยอะมากขึ้น เราจึงตัดสินใจเปิดร้านที่สอง ร้านที่สาม สี่ และห้าเรื่อยมา ซึ่งจากร้านที่สองเราได้มีการขยับขยายร้านให้เป็นแบบ Fine dining มากขึ้น”

ซึ่งนับจากวันที่ตัดสินใจเปิดร้านโอชาไทยสาขาแรกจนถึงปัจจุบัน การเดินทางของเชฟลลิตาและน้องสาวก็ได้ผ่านมากว่า 25 ปีแล้ว

บอกเล่าประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศและสิ่งที่ได้เรียนรู้จากงานที่ทำ

เชฟบอกเล่าประสบการณ์ตรงของเธอผ่านศูนย์ข้อมูลเพื่อธุรกิจไทยในสหรัฐฯ พร้อมกับเน้นย้ำความสำคัญของ “การเรียนรู้” ว่าการเรียนรู้นั้นจะต้องเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา เพราะยุคสมัยเปลี่ยนไปทุกวัน หากคุณอยากจะประสบความสำเร็จ อย่างน้อยคุณจะต้องก้าวตามมันให้ทัน

“การเรียนรู้ คือ เราต้องพยายามเรียนรู้ตามสถานการณ์ ตามยุค ตามสมัย อย่างเช่นตอนนี้เทรนด์ที่กำลังมาคือการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ เมนูอาหารของทางร้านเราก็จะต้องสามารถรองรับลูกค้าสายสุขภาพได้ด้วย”

สำหรับปัญหาอุปสรรคที่พบหลัก ๆ คือเรื่องตัวบุคคลไม่ว่าจะเป็นพนักงานคนไทยหรือต่างชาติ เพราะทุกคนมาจากต่างที่ต่างถิ่น ต่างครอบครัว ต่างการเลี้ยงดู เพราะฉะนั้นความไม่เข้าใจกันก็สามารถเกิดขึ้นได้ แต่สิ่งที่เชฟลลิตานำเข้ามาแก้ไขอุปสรรคตรงจุดนี้คือ “ระบบ” และ “กฎระเบียบ”

“ปัญหาของร้านอาหารก็จะมีเรื่องของบุคคลที่เข้ามาทำงาน ในร้านก็จะมีทั้งคนไทย ทั้งคนอเมริกัน ต่างคนต่างชาติต่างภาษา ซึ่งบางครั้งความแตกต่างทางวัฒนธรรมและภาษาก็เป็นปัญหาบ้าง นอกจากนี้ เราเป็นร้านอาหารไทย พนักงานคนไทยของเราจะต้องทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เราพยายามเคลียร์พนักงานให้เข้าใจว่า การที่เรามาอยู่เมืองนี้ เราก็ต้องทำตามระบบระเบียบของเขา พนักงานคนไทยบางคนเขาไม่เข้าใจในระบบของเรา บางครั้งพนักงานต่างชาติเองก็ไม่เข้าใจ ปัญหาเราก็จะอยู่ตรงนั้น  ซึ่งเราก็ต้องแก้ไขเป็นเรื่อง ๆ ไป นำปัญหาไปปรับปรุงแก้ไข พยายามเรียนรู้กับมันและพัฒนากันต่อไป หน้าที่ของเราคือการบริหารร้านให้ลงตัว เราอยากให้ทุกอย่างเป็นความสบายใจของทั้งเราและพนักงาน”

“เสน่ห์ไทย”

สำหรับการทำร้านอาหารแน่นอนว่าสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่เราต้องนึกถึงและให้ความสำคัญก็คือ “รสชาติของอาหาร” และความสำเร็จมันก็จะไม่ไกลเกินเอื้อม หากคุณคัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกค้า เพื่อเป็นการตอบแทนพวกเขาในการเดินทางเข้ามาใช้บริการถึงในร้าน

“อาหารเป็นเรื่องที่สำคัญมาก การที่เราจะประสบความสำเร็จได้ เราต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้า เวลาเราจะขายของ เราต้องนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการบริการที่ดี อาหารอร่อย หน้าตาการจัดตกแต่งอาหารสวยงาม และร้านต้องสะอาดสะอ้าน แล้วบรรยากาศทุกอย่างก็ต้องลงตัว”

“ทางร้านของเราเน้นย้ำตรงนี้มาก เพราะถ้าเราอยากเปิดร้านอาหารไทยในสหรัฐอเมริกาให้ประสบความสำเร็จ เราก็ต้องพรีเซนต์ความเป็นไทยตรงนี้ นอกจากจะได้รับประทานอาหารที่เป็นรสชาติไทยแท้แล้ว ลูกค้าก็จะได้ซึมซับความเป็นไทย ผ่านการบริการแบบไทย การไหว้ การพูดจา การยิ้มแย้ม และอื่น ๆ ที่เรานำมาใช้และคิดว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุด เพราะโดยส่วนตัวแล้วเชื่อว่า ในโลกนี้คนไทยมีบุคลิกที่อ่อนน้อมที่สุดแล้ว พื้นฐานของคนไทยเราเป็นคนที่อ่อนหวานอ่อนโยน เพราะฉะนั้นเราคนไทยจึงต้องนำจุดขายตรงนั้นออกมา ให้ลูกค้าหรือคนที่ผ่านไปผ่านมามองแล้วดูรู้สึกสบายตาและสบายใจ”

เนื่องจากโอชาไทยทั้ง 5 สาขา ตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองซานฟรานซิสโก ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นย่านธุรกิจและที่พักอาศัย แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 ในรอบแรก ผู้คนส่วนใหญ่จำเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน หรือย้ายออกไปอยู่นอกเมือง จึงทำให้บริเวณที่ตั้งของร้านเงียบเหงาอย่างหนัก ประกอบกับนโยบายการป้องกันโรคของรัฐบาล ทำให้ร้านโอชาไทยจำเป็นต้องปิดให้บริการชั่วคราวเป็นระยะเวลามากกว่า 2 เดือน

“ตอนนั้นที่มีการระบาดแรก ๆ ก็ปิดร้านไปประมาณสองเดือนกว่า พนักงานก็ต้องหยุดงานไปในช่วงนั้น แต่สิ่งที่เราทำได้และพยายามช่วยเหลือพนักงานของเราก็คือ ทุกคนสามารถนำของในร้านกลับไปรับประทานที่บ้านกับครอบครัวได้ ไม่ว่าจะเป็นข้าวสาร ผัก หรือเนื้อสัตว์ต่าง ๆ หรือถ้าหากใครเดือดร้อนมาขอความช่วยเหลือเราก็จะช่วยกันไป เพราะตอนนั้นอะไรที่เราสามารถช่วยเหลือกันได้เราก็ต้องช่วยกันไปก่อน”

อาหารไทยไม่จำเป็นต้องขายถูก

 อาหารไทยมีรสชาติที่ดีและมีเอกลักษณ์ในตัวเองอยู่แล้ว ผู้ประกอบการร้านอาหารมีหน้าที่เพียงแค่นำเสนอให้มันกลายเป็นความสมบูรณ์แบบบนโต๊ะอาหาร

“อาหารไทยของเรามีดีอยู่แล้ว เราเพียงแค่นำเสนอสิ่งดี ๆ เหล่านั้นออกมาให้เป็นความสมบูรณ์แบบ เราต้องสื่อออกไปให้ลูกค้าได้เห็น และชื่นชมความเป็นไทยให้ได้มากที่สุด และถ้าคุณสามารถดึงจุดเด่นตรงนี้ออกมาได้ บอกเลยว่าประสบความสำเร็จแน่นอน”

“เราตั้งใจทำอาหารไทยออกมาแล้ว ไม่จำเป็นต้องขายในราคาถูกเลย เพราะว่าร้านของพี่ก็ไม่ถูก เราอย่าคิดว่าเราขายราคาถูก ๆ แล้วทำให้ได้คุณภาพแค่นี้พอ เพราะมันไม่ใช่ สิ่งที่เราต้องทำคือการเอาของที่ดีที่สุดให้ลูกค้า เพราะโดยปกติคนเราทุกคนจะเลือกของที่ดีที่สุดเข้ามาในชีวิตอยู่แล้ว อย่างในเรื่องของอาหารการกินก็เช่นเดียวกัน เราก็ต้องเลือกสิ่งที่ดี ซึ่งอันนี้สำคัญ เราเอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานเลยว่า ในเมื่อเราอยากกินของดี ๆ ของอร่อย ๆ ลูกค้าของเราก็เช่นกัน”

 เคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้โอชาไทยก้าวเดินอย่างมั่นคงมากว่า 25 ปี

เชฟลลิตาพูดถึงการเดินทางตลอดระยะเวลากว่า 25 ปี ของเธอว่า “ความซื่อสัตย์” คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้คุณยืนหยัดและก้าวเดินได้อย่างมั่นคงบนเส้นทางธุรกิจ

“เคล็ดลับความสำเร็จก็คือพี่เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ แล้วเราก็จะยืนอยู่ได้นานในธุรกิจตรงนี้ เราต้องให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกค้า ทั้งในส่วนของอาหารและบริการเราเน้นมาตรฐานและคุณภาพที่ดี ซึ่งมันจะทำให้เรายืนอยู่ได้นาน และร้านของเราก็ต้องสะอาดเรียบร้อย ซึ่งนับว่ามีความสำคัญมากสำหรับการที่ทำธุรกิจในสหรัฐอเมริกา”

นอกจากนี้ “ความเป็นไทย” คือกุญแจอีกหนึ่งดอกสำคัญในการนำพาโอชาไทยมาถึงวันนี้ได้

“พี่พยายามนำของดีทุกอย่างมาจากเมืองไทย พยายามหาวัตถุดิบที่เป็นของไทย เพื่อให้ได้รสชาติอาหารที่เป็นไทยแท้ ๆ เมืองไทยเรามีของดีหลายอย่าง และเนื่องด้วยที่ร้านเราตั้งใจที่จะนำเสนอความเป็นไทย พี่จึงนำของดีเมืองไทยมาไว้ที่ร้าน ไม่ว่าจะเป็นความสุภาพอ่อนน้อม หรือการยิ้มแย้ม เราทำให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลายในขณะรับบริการที่ร้าน”

มีอะไรอยากฝากบอกคนไทยที่อยากทำอาชีพนี้บ้าง

 การเปิดร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากสายตาที่มองไปยังจุดหมายและความสำเร็จแล้ว คุณต้องมีหัวใจที่แข็งแกร่ง และพร้อมรับมือกับปัญหาที่จะเข้ามาทุกรูปแบบ เพราะคุณจะได้เจอกับมันอย่างแน่นอน

“ถ้าเราอยากมาเปิดร้านอาหารที่สหรัฐอเมริกา หนึ่งคือเราต้องมั่นใจว่าเราเปิดแล้วเราทำได้ และเราต้องทำได้ทุกอย่าง อาหารเราก็ต้องทำเป็น งานบริหารก็ต้องเป็น งานบริการเราก็ต้องทำเป็นด้วย”

“เรามีความตั้งใจจริง และเราก็ต้องเตรียมตั้งรับไว้เลยว่า ถ้าเราลงมือทำเราต้องเจอกับปัญหาแน่นอน เพราะฉะนั้นเราต้องใช้ความตั้งใจที่เรามีทำทุกอย่างให้มันออกมาดีที่สุด ผ่านการวางแผน มีระบบ ระเบียบ กฎเกณฑ์ และทุกสิ่งที่เราทำมันต้องได้ผลจริง ๆ ซึ่งผลลัพธ์นั้นมันก็ต้องออกมาดีด้วย และมันจะทำให้เราประสบความสำเร็จ”

อย่างไรก็ตาม เชฟลลิตาได้ฝากข้อคิด สำหรับผู้ที่ต้องการจะเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ว่า เมื่อคุณประสบความสำเร็จในการทำร้านอาหาร คุณจะมีรายได้เข้ามาเป็นจำนวนมาก แต่อย่าหลงระเริงกับรายได้และความสำเร็จจนลืมตัว เพราะนอกจากรายได้ที่เข้ามาแล้ว การเก็บออมบริหารเงินก็เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก และมันจะทำให้ความสำเร็จของคุณเดินทางไปพร้อม ๆ กับคุณบนเส้นทางธุรกิจได้อย่างยาวนาน

“การเปิดร้านอาหารเป็นเรื่องใหญ่ เราต้องใช้ความอดทนกับหลาย ๆ อย่าง และต้องมีการเรียนรู้กับมันเยอะเหมือนกัน และสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ อยากให้คนไทยที่มาทำงานธุรกิจตรงนี้ ได้ศึกษาและมีความเข้าใจในหลักการบริหารที่ดีด้วย แล้วทุกอย่างมันก็จะลงตัว”

เฟซบุ๊คเพจของร้าน

https://www.facebook.com/oshathai

538 views

Newsletter Subscription

สนใจรับข่าวสารและกิจกรรมที่เป็นโอกาสของไทย
Email Address
Secure and Spam free...
Go to Top