การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคมีผลต่ออุตสาหกรรมแทบจะทุกประเภท ในขณะที่ทุกอย่างกำลังกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้ง ประกอบกับอัตราการฉีดวัคซีนที่เพิ่มสูงขึ้น และผู้คนก็เริ่มออกจากบ้านมาใช้ชีวิตปกติ การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการทำงานและการศึกษา การกลับมารับประทานอาหารนอกบ้าน รวมไปถึงประสบการณ์ในการใช้จ่ายที่ผ่านมา จะส่งผลต่อวิธีที่ผู้บริโภคใช้จัดลำดับความสำคัญของการใช้จ่าย ในช่วงเวลาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและต่อเนื่องไปในอนาคต
การก้าวผ่านสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 มาถึงจุดเริ่มต้นของปี 2564 ทำให้ผู้บริโภคในสหรัฐฯ เริ่มมีความหวังในการกลับสู่ “สภาวะปกติ” โดยผู้บริโภคมากกว่าครึ่งคาดว่า พวกเขาจะสามารถกลับมาทำกิจกรรมที่เคยทำก่อนการแพร่ระบาดได้ในอีก 3-5 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา การใช้ชีวิตที่บ้านของคนอเมริกันยังคงไม่ต่างกับช่วงปี 2563 และผู้คนก็ยังคงให้ความสำคัญกับการซื้อของออนไลน์ ส่งผลให้ยอดขายเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กและของใช้ในบ้านเพิ่มขึ้น 46% และ 38% ตามลำดับ
รายงานของเอ็นพีดีกรุ๊ประบุว่า ในช่วง 6 สัปดาห์แรกของปี 2564 ผู้บริโภคยังคงใช้จ่ายไปกับกลุ่มสินค้าและบริการที่ช่วยทำให้การใช้ชีวิตภายในบ้านสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการสั่งซื้ออาหารรสชาติถูกปากมารับประทานที่บ้าน ประกอบกับการได้รับความช่วยเหลือเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาโดยภาครัฐ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง
การแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้อาจจะส่งผลกระทบในระยะยาวไปถึงช่วงหลังวิกฤต โดยมีการคาดการณ์ว่าธุรกิจการบริการด้านอาหารจะไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกอย่างแน่นอนหลังจากนี้และอาจต้องมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบในการดำเนินธุรกิจอย่างถาวร
